เมื่อ AI เข้ามาใกล้มากขึ้น | พสุ เดชะรินทร์

เมื่อ-AI-เข้ามาใกล้มากขึ้น

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือสนใจในเทคโนโลยีมากกว่าการใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์งาน หาข้อมูล การตกแต่งรูปเพื่อแชร์ การใช้สังคมออนไลน์ หรือการดูหนังผ่านทางสตรีมมิง

เมื่อ-AI-เข้ามาใกล้มากขึ้น
เมื่อได้ยินคำว่า AI หรือ Artificial Intelligence บางท่านก็อาจจะนึกถึงแต่หุ่นยนต์อำนวยความสะดวก นึกถึง Chatbot ในไลน์ที่ตอบคำถามต่างๆ โดยอัตโนมัติ เป็นต้น

ปัจจุบัน AI ได้เข้ามาใกล้ตัวทุกคนมากขึ้น และบทบาทของ AI ก็กำลังเริ่มเปลี่ยนไป จากเมื่อปีที่แล้ว ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับ AI จะเป็นในลักษณะของผู้รับ ที่ AI ทำงานอยู่เบื้องหลังของแอป โปรแกรม หรืออุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์อำนวยความสะดวก การตอบคำถามใน Chatbot เพลง หรือ Feed ที่ขึ้นมาตามที่ AI จัดสรรให้

ในปัจจุบัน เมื่อนึกถึง AI นอกจากการทำงานอยู่เบื้องหลังแล้ว AI จะเริ่มเข้ามาอยู่เบื้องหน้า ที่ทุกคนสามารถใช้ AI ในการทำงานและอำนวยความสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเนื้อหาในรูปแบบต่างๆ ที่หลายคนเริ่มมองเห็นโอกาสและช่องทางที่จะทำงานร่วมกับ AI ในอนาคต

กระแสความตื่นตัวนี้เกิดขึ้น เมื่อ ChatGPT เปิดตัวขึ้นมาเมื่อสิ้นปีที่แล้ว ทำให้เรื่องของ Generative AI ได้รับกระแสและความสนใจมากขึ้น

Generative AI นั้นเป็นประเภทหนึ่งของ AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างเนื้อหา ทั้งข้อความ ภาพ เสียง ดนตรี ฯลฯ โดย AI จะประมวลและวิเคราะห์จากข้อมูลที่มีอยู่ อีกทั้งจะมีการเรียนรู้และพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ จากการใช้งานที่มากขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับ ChatGPT นั้นก็เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น โดยเป็น AI ที่เมื่อป้อนคำถามหรือข้อความเข้าไป AI ก็จะไปประมวลจากข้อมูลที่มีอยู่เพื่อให้คำตอบออกมา

นอกจาก ChatGPT แล้วยังมี Generative AI ชนิดอื่นอีก DALL-E จะสร้างรูปภาพขึ้นมา จากข้อความที่ป้อนเข้าไป (ผมลองให้สร้างภาพปลาบินในอวกาศโดยมีพระจันทร์เป็นฉากหลัง ก็ได้ภาพออกมาให้เลือก 4 ภาพ)

หรือ MuseNet ที่ใช้ในการสร้างดนตรี หรือเว็บอื่นๆ ที่ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหา เช่น stockimg.ai (สร้างหน้าปกหนังสือ โปสเตอร์) elevenlabs.io (อ่านออกเสียงจากข้อความ) usechannel.com (แปลงข้อความและสถิติเป็นกราฟหรือรูปภาพ) papercup.com (แปลงเสียงในวิดีโอเป็นภาษาต่างๆ) เป็นต้น

เมื่อ AI ขยับจากผู้อยู่เบื้องหลังมาอยู่เบื้องหน้ามากขึ้น ทำให้ทั้งบุคคลและธุรกิจสามารถนำ Generative AI มาใช้ประโยชน์มากขึ้น ทั้งการทำงานให้รวดเร็วขึ้น หรือทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีข่าวว่ามีหนังสือที่ขายใน amazon.com อย่างน้อย 200 เรื่องที่ระบุว่า ChatGPT เป็นผู้เขียนร่วม หรือในวงการสถาปนิกและนักออกแบบที่เริ่มนำ Generative AI มาช่วยในการออกแบบ ทำให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

ขณะเดียวกันก็เริ่มมีความกังวลกันว่า ในอนาคตเมื่อ Generative AI พัฒนาและเสถียรมากขึ้น ก็อาจจะมาทดแทนอาชีพหรืองานบางอย่างได้ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อหา

สื่อใหญ่อย่างเช่น BuzzFeed และ Sports Illlustrated ก็มีข่าวว่ากำลังทดลองให้ Generative AI สร้างเนื้อหาและบทความ แต่ทั้งสองสื่อระบุว่ากำลังหาทางให้ AI ช่วย แต่ไม่ได้ทดแทนบุคลากร

ผมเองได้ลองให้ ChatGPT เขียนบทความเกี่ยวกับกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และพบว่าแม้ปัจจุบัน ChatGPT จะเขียนออกมาเป็นภาษาไทยได้ และมีเนื้อหาสั้นๆ เกี่ยวกับกลยุทธ์ใหม่ แต่อาจจะเนื่องจากตัวข้อมูลที่เป็นภาษาไทยที่ยังไม่มากพอ ทำให้ยังทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร (ป.ล.บทความนี้ยังเขียนโดยคนอยู่นะครับ)

เช่นเดียวกัน เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มา ในอนาคต Generative AI อาจจะทดแทนงานบางประเภทได้ แต่ก็สามารถสร้างอาชีพหรืองานใหม่ขึ้นมาได้เช่นกัน

ดังนั้น ควรจะต้องเรียนรู้ ทำงาน และอยู่ร่วมกับ Generative AI เพื่อในอนาคตจะได้ใช้ประโยชน์จาก AI ชนิดนี้มากขึ้น แต่ก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน เนื่องจากยังเป็นสิ่งที่ใหม่อยู่

ดังนั้น ทั้งความถูกต้อง แม่นยำ เรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา การละเมิดลิขสิทธิ์ ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังด้วยเช่นกัน